คุณสมบัติในการระบายอากาศของเครื่องฟอกอากาศ เป็นตัวแปรที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่คุณควรรู้ก่อนจะซื้อเครื่องฟอกอากาศสักเครื่อง
การระบายอากาศของเครื่องฟอกนั้นจะแสดงให้เห็นถึงปริมาณอากาศ ที่เครื่องอากาศสามารถฟอกได้ ในหน่วยปริมาตร (พื้นที่) ต่อ เวลา
ยกตัวอย่างเช่น AirCleaner Personal มีการระบายอากาศอยู่ที่ 285m3/h. ซึ่งตามทฤษฎีเเล้วจะหมายความว่า ในห้องที่มีขนาด 12ม*12ม*2ม = 288ตรม. จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการที่จะให้อากาศทั้งหมดภายในห้องไหลผ่านเครื่องฟอกอากาศ
ทำไมเราจึงจำเป็นที่จะต้องทราบถึงข้อนี้? เพราะว่าหากห้องที่เราจะนำเครื่องฟอกอากาศไปวางนั้น มีขนาดใหญ่ ตัวเครื่องฟอกจะต้องมีการระบายอากาศที่สูงตามไปด้วยเช่นกัน
ทาง AirDeveloppa แนะนำว่าทุกครั้งที่คุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศเครื่องใหม่ คุณควรที่จะคำนึงถึงตัวแปรด้านการระบายอากาศร่วมด้วย มิฉะนั้นมันก็เปรียบเหมือนกับการที่คุณซื้อรถจักรยานยนต์มาคันหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเครื่องยนต์มีขนาดกี่ซีซีนั่นแหละ
เราได้พบกับแผ่นกรองอากาศ HEPA ที่มีขนาดเล็กและเคลื่อนย้ายง่ายและหาซื้อได้ตามท้องตลาด ด้วยขนาดกระทัดรัดและใช้กระแสไฟเพียง 5V ผ่านสาย USB จึงทำให้แผ่นกรองชนิดนี้มีการระบายอากาศต่ำ ทั้งยังสกปรกเร็ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า แผ่นกรองอากาศชนิดนี้ เหมาะที่จะใช้ในพื้นที่ปิดขนาดเล็กเท่านั้น เช่น ในรถยนต์ส่วนตัว เป็นต้น
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ว่าทำไมคุณควรจะหยุดซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระบุข้อมูลสำคัญไว้อย่างชัดเจน
เราจะคำนวณการระบายอากาศได้อย่างไร
ทาง AirDeveloppa ได้ทำการคำนวณการระบายอากาศของ AirCleaner Personal ตามแนวทางด้านล่าง
เราได้ใช้เครื่องวัดความเร็วลมในการวัด โดยวัดความเร็วจากระดับที่ห่างจากรูระบายอากาศ 3 ระดับ โดยได้เปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุด
https://en.wikipedia.org/wiki/Anemometer


จากนั้นสมมติว่าจุด A ครอบคลุม 85% ของพื้นที่ทั้งหมดจุด B ครอบคลุม 5% และจุด C ครอบคลุม 10%
ความเร็วลมโดยเฉลี่ย = (9.2m/s*0.85)+(5.1m/s*0.05)+(6.5m/s*0.1) = 8.725m/s
ตอนนี้เราได้ค่าของความเร็วลมเฉลี่ยเเล้ว ตัวแปรต่อไปที่เราจะต้องคำนวณคือพื้นที่หน้าตัดของรูระบายอากาศ:
พื้นที่ = (pi*(0.11m/2)^2)-(0.001m*0.11m*4) = 0.009m2
ขั้นตอนสุดท้าย เราสามารถคำนวณหาการระบายอากาศของแผ่นกรองภายในเวลา 1 ชั่วโมง จะได้ว่า:
การระบายอากาศ = ความเร็วลมเฉลี่ย*พื้นที่*1h = 8.725m/s*0.009m2*3600sec = 282.69m3/h